7 สุดยอดไม้ประดับปลูกหน้าบ้าน ใช้งานได้ดี คุ้มค่า คุ้มราคา อัพเดทล่าสุดปี 2568

เฟิร์นสไบนางปลอม เฟิร์นอุ้งตีนหมี เฟิร์นออสเตรเลีย ต้นเฟิร์นสไบนาง เฟิร์นลูกไก่ทอง

ต้นโป๊ยเซียน ดอกสีส้ม เงินเต็มบ้าน ในกระถาง 8 นิ้ว ไม้นําโชค ไม้มงคล ปลูกประดับหน้าน

ต้นบอนกระดาดด่าง ต้นพ

ต้นไม้ โชคเก้าชั้น ด่างชม พู คุณนาย ตื่น สายด่างชม พู ต้นน้อย โหน่งแดง ฮาวาย โชคเก้าชั้น ด่าง ชมพู ต้นน้อยโหน่งแดงฮาวาย

ส้มจี๊ดไม้มงคล ประดับไว้เป็นต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน โดยเชื่อว่าส้มจี๊ด เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ เงินทองไหลมาเทมา นํามาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปลูก และผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ส้มจี๊ดผลกลม (Round kumquat) ผลค่อนข้างกลมขนาดเล็ก เนื้อส้มรสหวาน แต่อมเปรี้ยวบริเวณใกล้แกนกลาง ผลกินสด หรือนํามาประกอบเป็นอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น มาร์มาเลด คล้ายแยมแต่จะใส่เปลือก ผิว พร้อมเนื้อผลไม้ หรือเรียกแยมผิวส้ม เยลลี่ และสเปรด คล้ายแยมเช่นกัน แต่ส่วนผสมมากกว่าครึ่งใช้เนื้อผลไม้แท้ผสมกับน้ําผลไม้เข้มข้น ไม่ใส่น้ําตาล และอาหารอื่น ๆ ต้นส้มจี๊ดผลกลม นํามาทําบอนไซได้ หรือปลูกเป็นต้นเล็ก ๆ ในกระถางซึ่งในประเทศจีน และประเทศในเอเชียถือว่าเป็นพืชมงคล ให้ความโชคดี ร่ํารวยแก่ผู้ปลูก หากสังเกตจะพบว่าในเทศกาลตรุษจีน จะนําต้นส้มจี๊ดในกระถางมาตั้งไว้หน้าบ้าน หรือประดับในบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคล

tillandsia xerographica tillandsia ขอนไม้ ทิลแลนเซีย แขวน ไม้ประดับในร่ม ต้นไม้รากอากาศ ทิลแลนเซียสตริคต้า สามารถปลูกในร่มหรือภายในอาคารได้ ออกดอกปีละ 1 ครั้ง หลังออกดอกจะแตกหน่อใหม่ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ ทิลแลนเซียนั้นเป็นพืชวงศ์สับปะรดที่พบตามธรรมชาติในดินแดนซีกโลกใต้ เป็นต้นไม้ที่มีชื่อสกุลตั้งขึ้นเป็นเกียรติแก่นายแพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชาวฟินแลนด์ที่ชื่อ เอลเลียส ทิลแลนด์ส Elias Tillands ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1640-169 3 กระจายพันธุ์ตั้งแต่บริเวณตอนใต้ของทวีปอเมริกาเหนือ เช่น รัฐฟลอริดาของสหรัฐ หมู่เกาะเวสต์อินดีสในทะเลแคริบเบียน เรื่อยไปจนถึงทวีปอเมริกาใต้ทั้งทวีป มีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดเจนคือทั่วทั้งต้นและแผ่นใบมีเกล็ดสีขาวที่เรียกว่า ไทรโคม Trichome) ปกคลุมทําหน้าที่ดูดซับอาหารแทนราก ส่วนรากนั้นทําหน้าที่เพียงยึดเกาะเท่านั้นเป็นความมหัศจรรย์ของทิลแลนด์เซียที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่นและเป็นเสน่ห์ให้พืชสกุลนี้กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มนักปลูกเลี้ยงไม้ ทิลแลนเซีย เป็นไม้อากาศ air plant ทนแล้งเลี้ยงง่าย ไม่ต้องใช้วัสดุปลูกใด ๆ สามารถแขวนหรือบนวัสดุตกแต่ง เช่น ขดลวด ขอนไม้ หิน เป็นต้น วิธีการดูแล 1 แขวนไว้ในที่มีแสงสว่าง แดดรําไร ลมพัดผ่าน ถ้าเลี้ยงร่ม ไม่ได้แดด หรือได้แดดน้อย จะไม่ค่อยแตกหน่อใหม่ 2 ให้ปุ๋ยเกล็ดละลายน้ํา 2 อาทิตย์หรือเดือนละครั้ง 3 ให้น้ําได้ทุกวัน ธรรมชาติของทิลแลนด์เซียเป็นพืชที่ทนแล้งและชอบแสงแดดค่อนข้างมากแต่ถ้าต้นขาดน้ําจะทําให้ใบแห้ง นิ่ม แผ่นใบห่อขึ้น ควรรีบรดน้ําให้ชุ่มไม่นานใบจะแผ่กางออกและแข็งขึ้น สําหรับผู้ปลูกเลี้ยงที่รดน้ําทุกวันควรปลูกเลี้ยงในตําแหน่งที่ได้รับแสงแดดมาก มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อให้น้ําและความชื้นที่ค้างอยู่ตามซอกใบระเหยไปและยังช่วยให้บริเวณนั้นมีอุณหภูมิลดลงทิลแลนด์เซียไม่ต้องการน้ํามากหากสภาพพื้นที่ปลูกอยู่ใต้ร่มไม้ มีพรรณไม้ชนิดอื่นๆอยู่ด้วย แม้ได้รับแสงแดดมากก็สามารถเติบโตอยู่ได้ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ควรรดน้ําวันเว้นวันก็เพียงพอ และถ้าอากาศร้อนจัดควรฉีดพ่นน้ําในพื้นที่ปลูกบ้างเพื่อลดความร้อนในอากาศลงหากเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งมีความชื้นในอากาศสูงควรให้น้ํา 3 วันต่อ 1 ครั้งหรือในกรณีที่มีฝนตกชุกไม่จําเป็นต้องให้น้ําเลยและระวังเรื่องต้นเน่า ทิลแลนเซียสายพันธุ์สตริคต้า พันธุ์นี้ ดอกจะออกช่วงหน้าหนาวปีละครั้ง เวลาใกล้ออกดอกกาบใบจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงอ่อน แล้วค่อย ๆเข้มขึ้นจนดอกเปลี่ยนเป็นสีม่วงนับเวลานานประมาณสองสัปดาห์ได้ เกสรสีเหลือง โผล่ออกมา ประมาณ 4-5 วันก็จะเริ่มเหี่ยวเมื่อดอกเหี่ยวลง จะมีการแตกหน่อใหม่เล็ก ๆ มาแทนที่ หากต้องการขยายพันธุ์ก็สามารถจับแยกหน่อและอนุบาลต้นอ่อนต่อได้เลยการแยกหน่อทําให้ต้นของทิลแลนเซียเติบโตได้รวดเร็วขึ้นแต่ถ้าผู้ปลูกต้องเลี้ยงให้มีขนาดกอใหญ่ ก็ปล่อยไว้แบบนั้นได้เลย ต้นไม้ที่จัดส่งจะเป็นต้นสีเขียวไม่มีดอก
นอกจากช่วงฤดูหนาวที่จะส่งแบบติดดอกให้ลูกค้านะคะ: เหมาะสําหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล แนะนําให้ลองเลี้ยงต้นนี้ก่อนได้เลยค่ะ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้น ไม้พุ่ม อายุหลายปี ลําต้นเทียมเหนือดิน สูง 1.5-3 เมตร มีเหง้าใต้ดิน ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมขอบขนาน ปลายเรียวแหลม โคนเป็นกาบหุ้มลําต้น ขอบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้ม บริเวณขอบเกือบถึงกลางใบสีเหลือง ดอก ดอกเป็นช่อแน่น ออกตามยอดหรือปลายกิ่ง ดอกสีขาว กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อนปนน้ําตาลแดง กลีบดอก 3 กลีบ สีขาว ตรงกลางมีแต้มสีเหลือง กลีบบอบบาง ขอบกลีบหยัก ยับย่น ข้อมูลทั่วไป มีถิ่นกําเนิดในเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงนิวกินี การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์ การปลูกเลี้ยง ดินร่วน ต้องการน้ําปานกลางถึงน้ํามาก การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด แยกหน่อ